คำถามที่พี่เกรย์เจอบ่อยมากช่วงนี้คืออะไรรู้ไหมครับ #ฮั่นแน่ไม่รู้ล่ะสิ  เฉลยก็ได้ครับ มันคือปัญหาเรื่องการทำงานของแควนเพจ Mr.Grayman V2 ถามมากันเพียบเลยครับ!! ทั้งเด็กจบใหม่ที่หางานไม่ได้ ทั้งโดยเจ้านายไล่ออกเพราะทำงานห่วย ไปจนถึงคนที่ทำงานยากๆแต่ไม่กล้าลาออกเพราะลำบากชีวิต

เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ #เอวีก็มีด้วยประการละฉะนั้น วันนี้พี่เกรย์เลยมาสรุป 5 ขั้นตอนง่ายๆซึ่งเป็นมายด์เซ็ทในการจัดการหางานใหม่ให้กับชีวิต อย่างที่ว่าล่ะครับ คนเรามันผิดพลาดกันได้ ผิดครั้งที่ 1 ไม่รู้ ผิดครั้งที่ 2 ก็ยังไม่รู้ ผิดครั้งที่ 3 ก็เรียกว่าไม่รู้ #ไม่รู้ว่ามึงเกิดมาทำไม เอาล่ะ อย่าเสียเวลากับการด่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เรามาว่ากันเลยดีกว่าว่า คนตกงานและคนที่กำลังจะตกงานควรทำอย่างไรบ้าง

1. เงินฉุกเฉินน่ะมีไหมมมม

ลำดับแรกก่อนอื่นเลย พี่เกรย์อยากแนะนำให้ถามตัวเองครับว่า เรามีเงินสำรองไว้พอกับการใช้จ่าย 3-6 เดือนไหม อันนี้สำหรับคนที่คิดจะเปลี่ยนงานหรือกำลังจะตกในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ เรื่องเงินเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากครับผมครับ

แต่สำหรับคนที่ไม่มีงานทำ สิ่งที่ควรทำคือการประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดข้าใจนะว่าไม่มีเงิน มันลำบากแต่ขอร้องนะครับว่าอย่าสร้างภาระเพิ่มให้กับชาวบ้านคนอื่นอีกต่อหนึ่งเลย ยิ่งพวกเกาะครอบครัว พ่อแม่ ผัวเมียกิน อันนี้ต้องคิดเลยว่า จะทำประโยชน์อะไรให้กับเขาได้บ้างตอนที่เราไม่มีงานทำ กรุณาจำใส่กะโหลกไว้่เลยนะครับว่าเราทำให้เขาลำบากแค่ไหน #ออกไปหางานทำสิครับงอมืองอเท้ารออะไรอยู่

2. หางานอะไรก็ได้ทำไปก่อน

ถ้าคุณตกงาน หนทางที่ดีที่สุดในการลดภาระชีวิต คือ การหางานทำ งานอะไรก็ได้ครับที่จะทำให้คุณมีรายได้ เหมือนกับคำโบราณที่ว่าไว้ อย่าอายทำกิน อย่าหมื่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ไปเก็บขยะ รับจ้างตัดหญ้า ถูบ้าน ทำงาน 7-11 เข็นผักไปตลาด คาดเสื้อกั้กเป็นพี่วิน ทำตัวให้ชินกับการขับแทกซี่ กรุณาทำอะไรสักอย่างก่อนเถอะครับ ก่อนที่จะสร้างปัญหาชีวิตไปมากกว่านี้ เพราะคนที่ไม่มีความสามารถในการหารายได้ แถมยังไม่อายที่จะเกาะชาวบ้านกินไปวันๆ มันคือคนที่ตายทั้งๆที่มีชีวิตนะครับ #มึงเป็นเดอะวอกกิ้งเด็ทสินะ

ส่วนคนที่คิดจะลาออกจากงานเพราะเบื่องาน ทรมานเหลือเกิน กรุณาท่องไว้ในใจเหมือนพี่ก้องในลัดดาแลนด์นะครับออกแล้วกูจะเอาอะไรแดรกส์ หรือถ้าคิดว่ามีทางออกที่ดีกว่าจริงๆ อย่าลืมมองหาหนทางสำรองไว้ด้วยนะครับ

แหม่.. พี่เกรย์คิดถึงพวกที่ชักชวนคนให้ออกมาทำงานไม่ประจำ สร้างระบบทำธุรกิจนะครับนะ คราวนี้คงมีคนออกมาเพียบ ทั้งคนตกงาน ทั้งคนอยากเปลี่ยนงาน และคนที่ทำงานประจำแล้วไม่พอกิน คราวนี้ออกมาทำงานไม่ประจำกันหมดครับ คงแข่งขันกันมันส์สมใจอยากพวกคุณเลยใช่ไหมละครับ #แย่งงานกันเข้าไปนะจ๊ะ

3. ลองมองหาธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้

ในยุคนี้ พี่เกรย์อยากจะแนะนำ Sharing Economy หรือธุรกิจที่เกิดจากการแบ่งปันกันใช้ อย่าง AirBNB (ให้เช่าบ้านหรือที่พัก) UBer, GrabTAXi (ขับรถรับจ้าง) หรือถ้าลำบากจริงๆก็ลองหาความถนัดในการทำงานของตัวเองดูครับว่า ตัวเองชอบอะไร บางครั้งความสามารถที่เรามีอยู่อาจจะทำให้เราสามารถสร้างธุรกิจอะไรของเราก็ได้ เช่น บางคนชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน ก็ไปสมัครเป็นนักข่าวบันเทิง คราวนี้จะได้สมใจไงล่ะครับ

 

4. ไปเรียนต่อ

อันนี้สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก ชีวิตไม่มีปัญหา และครอบครัวพอมีฐานะอยู่ อย่าเสียเวลาไปเปล่าๆกับการนั่งเกาเข่าไปวันๆ  พี่เกรย์ขอแนะนำให้ไปเรียนต่อครับ เพื่อที่จะได้ประโยชน์สองอย่าง อย่างแรกคือการสร้างความรู้เพิ่มเติมในสายอาชีพ หรือค้นหาความถนัด อีกอย่างคือ การสร้าง Connection ในชีวิต เพราะการมีกัลยาณมิตรที่ดี บางครั้งมันต่อยอดชีวิตได้ดีกว่าที่คุณคิดนะครับ

พูดแล้วพี่เกรย์นึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง มันไปลงเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ เพราะมันต้องการขยายฐานลูกค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของมัน เพราะมันคิดง่ายๆว่า คนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปติดตั้งอยู่แล้ว ผลคือตอนนี้ยอดขายมันต่อปีประมาณ 40 ล้านบาทแล้วจ้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเรียนคอร์สอสังหาริมทรัพย์แค่คอร์สเดียว

5. สู้ต่อไป!!

ข้อสุดท้าย ง่ายๆสั้นๆสำหรับทุกคน คือคำว่าสู้ ครับ ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ในยุคที่ชีวิตมีปัญหา ในยุคที่ไม่มีใครเห็นค่าของเรา มันเป็นธรรมดาของชีวิต ดังนั้นเราทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ ถึงพี่เกรย์จะด่าว่าพวกคุณ แต่อยากให้รู้ครับว่าจุดประสงค์คืออยากให้คุณได้ดีและมีชีวิตที่มีความสุขด้วยใจจริง ดังนั้นถ้าคุณลำบากไม่ไหว ยกมือซ้ายขึ้นมา จับไปที่หน้าผากไล่ไปจนถึงท้ายทอย แล้วคุณจะรู้ครับว่า คุณยังมีผมอยู่เสมอ 

สุดท้ายนี้.. ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำเดียว คือ ขอให้ทุกคนโชคดี และมีความสุขกับทางที่ตัวเองได้เลือก #หลายคำไปแล้วนะมึง

 ขอบคุณที่มา : aommoney.com

แชร์ให้เพื่อน