วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    
    การออกกำลังกายอาจดูเป็นเรื่องง่าย มีรองเท้าวิ่งคู่เดียว ออกไปจ๊อกกิ้งในสวนก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว แต่…แน่ใจแค่ไหนว่า วิธีการออกกำลังกายที่กำลังทำอยู่นั้น มันโอเค หลายคนได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกายเพราะความเข้าใจผิดๆ หรือความไม่รู้นี่แหละ บทความนี้ได้รวบรวม “ความเชื่อ” เกี่ยวกับการออกกำลังกายมาเสนอ ลองพิจารณาไปพร้อมๆ กันว่า สิ่งที่เชื่อกับความเป็นจริงมันตรงกันหรือไม่

•    ความเชื่อ: การวิ่งบนสายพาน (Treadmill) ทำให้หัวเข่าได้รับความกระทบกระเทือนน้อยกว่าวิ่งบนถนน

ความจริง: พื้นผิวที่วิ่งมีผลน้อยมาก ปัจจัยสำคัญอยู่ที่น้ำหนักตัวที่กดทับ/กระแทกลงบนเข่าขณะวิ่งมากกว่า พยายามหลีกเลี่ยงแรงกระแทกนี้โดยการออกกำลังกายหลากหลายวิธีในคราวเดียว แทนการวิ่งอย่างเดียวนานเกินไป 

•    ความเชื่อ: ครื่องบริหารหน้าท้องสามารถช่วยกำจัดไขมันบริเวณพุงได้

ความจริง: ประโยชน์ของเครื่องดังกล่าวคือ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องแข็งแรงต่างหาก แต่การจะรีดไขมันออกคือ ต้องควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดและออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ซึ่งควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและบอดี้เวท เทรนนิ่งควบคู่กัน

•    ความเชื่อ: การว่ายน้ำช่วยทำให้น้ำหนักลดได้ไว

ความจริง: ข้อดีของการว่ายน้ำคือ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ ปอดแข็งแรง แต่อาจช่วยลดน้ำหนักได้ไม่มากเพราะการออกกำลังกายที่มีน้ำช่วยพยุงน้ำหนักตัว ทำให้ไม่ได้ออกแรงมากเท่าที่ควร อีกทั้งหลังว่ายน้ำยังทำให้รู้สึกหิว และอาจลงเอยด้วยการกินมากกว่าปกติเพื่อดับหิว

•    ความเชื่อ: โยคะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังทุกประเภท

ความจริง: โยคะช่วยได้หากอาการปวดหลังนั้นเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เพราะเล่นโยคะจะช่วยเหยียดยืดกล้ามเนื้อ แต่ถ้าอาการปวดหลังที่มีสาเหตุจากกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูก โยคะไม่ใช่คำตอบ ต้องปรึกษาแพทย์เท่านั้น

•    ความเชื่อ: การออกกำลังกายที่ดีต้องมีเหงื่อท่วมตัว

ความจริง: ไม่จำเป็นเสมอไป การออกกำลังกายบางอย่าง เช่น เดินเร็ว เวทเทรนนิ่งแบบเบาๆ หรือการทำงานบ้านซึ่งได้เหงื่อแค่ซึมๆ ก็สามารถเผาผลาญแคลอรีได้เหมือนกัน

•    ความเชื่อ: การออกกำลังกายต้องควบคู่กับความปวดเจ็บ

ความจริง: อย่าไปยึดติดทฤษฎี no pain – no gain ให้มากนัก ความรู้สึกเจ็บหลังการออกกำลังกายอาจถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บระหว่างออกกำลังกาย อันนี้อาจเป็นสัญญาณไม่ดีนัก เพราะอาจบ่งชี้ว่าเราเล่นผิดท่าหรือกำลังซ้ำเติมกล้ามเนื้อส่วนที่บาดเจ็บอยู่ก่อน

ก็เป็นความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังออกกำลังกาย และมือใหม่หัดเข้ายิม 

ที่มา : smethailandclub.com

แชร์ให้เพื่อน